9MYWTKCLH47XGH openai-domain-verification=dv-XPVMR2GeZSPQyNDF4CbwqEhq

8 ประเด็นน่าสงสัย เกี่ยวกับจอรับภาพ

     8 ประเด็นน่าสงสัย เกี่ยวกับจอรับภาพ  ปรับปรุงใหม่  กันยายน 2568 

สรุปสั้นสำหรับคนรีบ (TL;DR)

 

  • เลือก “อัตราส่วนจอ” ให้ตรงความละเอียดเครื่องฉาย (16:9, 16:10 หรือ 4:3) ภาพจะเต็มจอ สวย ไม่เสียพื้นที่

  • ขนาดจอให้ยึดหลัก 4-6-8: ห้องประชุม/ห้องเรียนใช้ระยะนั่งดูไกลสุด ÷ 6 ≈ ความสูงภาพที่เหมาะ 

  • จอใหญ่เกิน 150" แนะนำ “มอเตอร์ไฟฟ้า + ผ้า หนา + มีระบบตึงผ้า (tab-tension)” ใช้งานง่ายและเรียบเนียน

  • ห้องสว่างมาก ใช้จอชนิด ALR/CLR จะสู้แสงแวดล้อมได้ดีกว่า Matt White ธรรมดา (เหมาะกับ UST ด้วย)

  • ผ้า Matt White เช็ดแบบ “ปัดฝุ่น-ผ้าเปียกหมาด-ปล่อยแห้งก่อนม้วน” ได้จริง ไม่ติดไฟ และไม่ขึ้นราได้ง่ายถ้าดูแลถูกวิธี

  • ต่างราคามักต่างที่ “คุณภาพผ้า/ความหนา, งานประกอบ, มอเตอร์, การรับประกัน” ของดีใช้ทนและภาพเรียบกว่า

 


 

8 ประเด็นที่ลูกค้าถามบ่อย (อัปเดตปี 2025)

 

1) จอโปรเจคเตอร์ทำความสะอาดยังไง ไม่ให้ขึ้นคราบ?

 

  • ผ้า Matt White: ปัดฝุ่นก่อน → ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ → ปล่อยผ้าแห้งสนิทค่อยม้วนเก็บ

  • หลีกเลี่ยงสารเคมีแรง ๆ และการถูซ้ำจุดเดิมแรงเกินไป

  • ผ้า Matt White เกรดดี “ไม่ติดไฟและไม่ขึ้นราง่าย” ถ้าห้องไม่อับชื้นเกินไป

 

2) มีกระจกใส/ไวท์บอร์ดอยู่แล้ว ใช้แทนจอได้ไหม?

 

ได้ค่ะ แต่พื้นผิวมันเงาจะสะท้อนเป็นดวง จุดแก้คือ “ติดฟิล์มรับภาพเฉพาะทาง” บนไวท์บอร์ด/กระจก จะลดเงา และยังเขียนปากกาไวท์บอร์ดทับได้ด้วย (เช่นฟิล์มที่ร้านใช้รุ่น Razr WF-1)


 

3) อยากฉาย “หลังจอ” ทำได้ไหม?

 

ทำได้ด้วย “ผ้าจอชนิด Rear” หรือ “กระจก+ฟิล์มรับภาพ” แล้วตั้งค่าพลิกภาพในเมนูโปรเจคเตอร์เป็น Rear Projection เท่านั้นเอง เหมาะงานโชว์/บูธ เพราะซ่อนเครื่องฉายไว้ด้านหลัง

 

4) ซื้อโปรเจคเตอร์ WUXGA (1920×1200) ควรใช้จออัตราส่วนอะไร?

 

  • ตรงสเปกสุด: 16:10 ภาพเต็มจอ คมทุกพิกเซล

  • ถ้าประหยัด: ใช้จอ 4:3 ได้ แต่ภาพกว้างจะหดลงนิดหน่อยเมื่อฉาย 16:10 บน 4:3 (พื้นที่ด้านบน-ล่างจะว่าง) ตัวเลขตัวอย่างในบทความเดิมอธิบายไว้แล้วค่ะ

 

5) จอ 200 นิ้ว เลือก “มือดึง” หรือ “มอเตอร์ไฟฟ้า”?

 

เกิน 150 นิ้ว แนะนำ มอเตอร์ไฟฟ้า เพราะน้ำหนักมาก มือดึงสปริงล้า/ค้างง่าย ใช้ไฟฟ้าจะปลอดภัย ใช้ง่าย และผ้าเรียบกว่าในระยะยาว (ถ้างบถึง เติมระบบ tab-tension ให้ตึงขอบสวยยิ่งขึ้น)

 

6) มีจอแขวนมือดึงอยู่ จะหาขาตั้งมาเสียบได้ไหม?

 

ไม่ได้ค่ะ โครงสร้างหัว-ท้ายและเดือยล็อกต่างกัน ขาตั้งของจอ Tripod ใส่กับจอแขวนมือดึงไม่ลง ถ้าอยากพกพาให้ทำ “ชุดแขวน DIY” หรือเปลี่ยนเป็นจอขาตั้งโดยตรงจะจบกว่า

 

7) จอแขวน/มอเตอร์ “ปล่อยห้อยไว้” ไม่ม้วนเก็บได้ไหม?

 

ช่างแนะนำให้ ม้วนเก็บทุกครั้ง เพื่อรักษาความตึงของผ้าและแรงยึดกาวที่แกน ถ้าปล่อยนาน ๆ ผ้าอาจคลาย/หลุดได้ และเกิดรอยย่นง่ายขึ้น

 

8) ทำไมจอขนาดเท่ากัน ราคาต่าง?

 

ตัวแปรหลักคือ คุณภาพผ้าและความหนา, งานประกอบ/การเดินสาย, เกรดมอเตอร์, ความนิ่งเวลาเลื่อนขึ้น-ลง, การรับประกัน ของดีใช้ทนและภาพเรียบกว่า (ถูกมากบางทีผ้าบางจนย่นหรือมอเตอร์มีเสียง/สตาร์ตแข็ง) เลือกโรงงานมาตรฐานและศูนย์ไทยอุ่นใจกว่าแน่นอนค่ะ

 

เลือก “ขนาดจอ” ให้เหมาะ แบบเร็ว ๆ ด้วยกติกา 4-6-8

 

สำหรับห้องประชุม/ห้องเรียน ให้เอา “ระยะนั่งดูไกลสุด (เมตร)” มา หาร 6 จะได้ “ความสูงภาพ (เมตร)” ที่อ่านตัวหนังสือทั่วไปได้สบาย ๆ (งานตัวหนังสือเยอะใช้หาร 4, งานวิดีโอล้วน ๆ ใช้หาร 8 ก็พอ) มีบทความอธิบายละเอียดบนเว็บร้านให้อ้างอิงต่อได้ค่ะ ชื่อเว็บไซต์

 


 

แนะนำรุ่นขายดี (คัดมา 3 ระดับงบ)

 

1) ประหยัด-คุ้มค่า (ห้องเรียน/ห่องประชุมชั่วคราว )

 

Screenboy Wall 70×70 นิ้ว (1:1) – จอแขวนมือดึง
จุดเด่น: โครงเหล็กทนงานหนัก, ผ้า Matt White เสริมไฟเบอร์ ด้านหลังเคลือบดำ ป้องกันแสงทะลุ, ระบบ ROLLER LOCK ดึง-เก็บลื่นมือ เหมาะข้อความ/สไลด์ทั่วไป

 

2) กลาง-สวยเนียน (ห้องประชุม 10–25 ที่นั่ง)

 

Vertex จอมอเตอร์ไฟฟ้า  120" (16:9) – จอมอเตอร์ไฟฟ้า
จุดเด่น: กระบอกติดผนัง/เพดานได้, ผ้า Matt White Gain 1.0 สีเที่ยงตรง, การรับประกันจอ 1 ปี/มอเตอร์ 3 ปี, อัปเกรดรีโมตไร้สายได้ เหมาะทั้งพรีเซนต์และวิดีโอคอล

 

3) ใหญ่จริงจัง (ห้องประชุมใหญ่/ฮอลล์)

 

Razr Motorized 150" (4:3) – รุ่นสเปคหน่วยงาน
จุดเด่น: ผ้า Matt White ใยแก้วหลังดำ หนา ทนไฟ เช็ดทำความสะอาดได้, มอเตอร์หมุนกลับได้ หยุดได้ทุกตำแหน่ง ใช้งานหนักเช้า-เย็นสบายใจ (มีไซซ์ใหญ่กว่านี้ในหมวดเดียวกัน)  นอกจากนี้ ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าหลายไซซ์ทั้ง 16:9 และ 16:10 ให้เลือก ในเว็บร้านหมวด จอไฟฟ้า ค่ะ  

 


 

ห้องสว่างมาก ทำยังไงให้ “สู้แสง” ได้?

 

  • พิจารณาจอชนิด ALR/CLR ที่ออกแบบให้ “คัดทิศทางแสง” ตัดแสงห้องแล้วรับเฉพาะแสงจากโปรเจคเตอร์ ภาพจึงดำลึก สีไม่ซีด แม้เปิดไฟ (ยิ่งจับคู่กับโปรเจคเตอร์ UST ในบ้านยิ่งเนี้ยบ)

  • ถ้าใช้ Matt White ปกติ ให้ลดแสงห้อง/เปลี่ยนหลอดไฟทางอ้อม และอย่าวางไฟส่องตรงหน้าจอ

 


 

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ (เช็กลิสต์ 9 ข้อ)

 

  1. อัตราส่วนจอ ให้ตรงกับสัญญาณที่ใช้บ่อย (16:9 ถ้าพรีเซนต์+วิดีโอ, 16:10 ถ้าใช้โน้ตบุ๊ก WUXGA, 4:3 ถ้าระบบเก่ายังเยอะ)

  2. ขนาดจอ อิงกติกา 4-6-8 และ “ความสูงฝ้า/พื้นที่ติดตั้งจริง”

  3. ผ้าจอ เลือก Matt White (งานรวม ๆ) หรือ ALR/CLR (ห้องสว่าง/UST)

  4. มอเตอร์/สปริง จอใหญ่ใช้มอเตอร์ ดีกว่ามือดึง ลดเสี่ยงสปริงพัง

  5. โครงกระบอก/งานประกอบ ส่งผลกับความนิ่งและอายุการใช้งาน (ถูกมากอาจเดินสาย/งานเชื่อมไม่ดี)

  6. การรับประกัน/ศูนย์ไทย อุ่นใจกว่าเวลาต้องเคลม (เช่นมอเตอร์บางรุ่นรับประกัน 3 ปี) 

  7. วิธีดูแล ปัดฝุ่น → เช็ดหมาด → ผึ่งแห้ง → ม้วนเก็บทุกครั้ง

  8. ตำแหน่งไฟ/หน้าต่าง อย่าให้แสงสาดตรงจอ จัดผ้าม่าน/บังไฟช่วย

  9. งบประมาณรวมติดตั้ง เผื่อค่าติดตั้ง/สายสัญญาณ/ขาแขวน/ปลั๊กไฟให้ครบ

 


 

ตัวอย่างสถานการณ์ & คำแนะนำไว ๆ

 

  • ห้องประชุม 4×7 ม. ระยะนั่งไกลสุด ~6 ม. → ความสูงภาพ ≈ 1 ม. → จอ 100–120" (16:9) กำลังดี เลือก Vertex 120" Motorized พร้อมรีโมตไร้สายใช้ง่าย ๆ

  • ห้องเรียน 8×10 ม. ใช้สไลด์ตัวหนังสือเยอะ → เน้นอ่านชัด ใช้หลักหาร 4 เลือกจอสูงสัก ~2 ม. ขึ้นไป ขนาด 150" หรือมากกว่าแบบมอเตอร์ (Screenboy 150") แต่อันนี้ต้องดูความสูงเพดานด้วยนะคะ ถ้าเพดานเตี้ย อาจต้องใช้ 120 นิ้วแทน

  • ห้องนั่งเล่นสว่าง เปิดไฟตลอด ใช้ UST → มองจอ ALR/CLR แบบ Floor-rising จะสู้แสงและเก็บง่าย (ตัวอย่างคุณสมบัติจอ ALR/CLR ดูจากสเปกผู้ผลิต)

 


 

 



 

 



 
 
หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามแอดมิน และทีมงานได้ที่ โทรศัพท์ 0617439656 แอดไลน์  @SSSTH  ยินดีบริการค่ะะ
 
Visitors: 1,568,011